"กองทุนรวม" เป็นอีกหนึ่ง Product ทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมือใหม่และมนุษเงินเดือนที่เริ่มจะต้องเสียภาษีกัน ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกอง SSF หรือ RMF ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว เนื่องจาก นักลงทุนจะได้ราคาต้นทุนต่ำ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนและปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้นักลงทุนเกิดความลังเลในการลงทุน ประเด็นนี้ คุณสาห์รัช อยากให้มองย้อนกลับในช่วงเกิดวิกฤติซับไพรม์ (ปี 2551) ซึ่งตลาดหุ้นปรับลดลงอย่างมาก แต่หลังจากมีมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สถานการณ์ได้คลี่คลาย ตลาดหุ้นก็รีบาวน์ และเป็นขาขึ้นตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (บทความโดย ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวม นอกจากจะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้แล้ว (เฉพาะกองทุกรวมบางประเภท) ยังมีข้อดีอื่นๆ อีก เช่น ใช้เป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยง โดยมีผู้เชียวชาญคอยช่วยดูแลและจัดการเรื่องการแบ่งพอร์ตลงทุนให้กับเรา พร้อมทั้งยังมีระดับความเสี่ยงให้เลือกที่หลากหลายตรงตามความต้องการ เช่น นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ ก็อาจจะเน้นลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง อย่างเช่น กองหุ้น หรือหากรับความเสี่ยงได้ต่ำก็สามารถเลือกลงทุนในกองที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยต้องอย่าลืมศึกษานโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนและกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสม นอกจากนี้กองทุนรวมยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องซึ่งสามารถขายเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ใน 2 วันอีกด้วย
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจลงทุนในกองทุนรวม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 02-820-0270
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
Source : SetInvestNow