ซื้อขายหลักทรัพย์

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด(มหาชน) พร้อมให้บริการและให้คำแนะนำแก่นักลงทุนทั้งรายบุคคลและสถาบัน ด้วยประสบการ์และทีมงานมืออาชีพ

นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
ให้คำปรึกษาโดยทีมเจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพ มากด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ
เลือกส่งคำสั่งซื้อขายได้ทั้ง ผ่านเจ้าหน้าที่การแนะนำ การลงทุน หรือ ผ่านะรบบอินเตอร์เน็ตด้วยตนเอง
ทีมนักวิเคราะห์มีคุณภาพและประสบการณ์ ให้มุมมองแบบทันเหตุการณ์
เข้าถึงทุกความเคลื่อนไหวของข่าวสารการลงทุน ด้วยแอปพลิเคชั่นที่ทันสมัย
DR ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

ประเภทบัญชีของเรา

บัญชีเงินสด
(Cash)

บัญชีสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อหลักทรัพย์โดยชำระค่าหลักทรัพย์เต็มจำนวนด้วยเงินสด โดยการพิจารณาอนุมัติวงเงิน
จะประเมินจากสถานะการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า การซื้อขายหลักทรัพย์จะต้องชำระราคาภายใน 2 วันทำการ นับจากวันที่ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ โดยการหักหรือเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS)
อ่านต่อ

บัญชีแคชบาลานซ์
(Cash Balance)

บัญชีที่ลูกค้าต้องวางเงินล่วงหน้าไว้กับบริษัทหลักทรัพย์เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์
หรือมีข้อตกลงให้บริษัทหลักทรัพย์หักเงินตามคำสั่งของบริษัทหลักทรัพย์ในบัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าที่ฝากเงินไว้เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์
อ่านต่อ

บัญชีเครดิตบาลานซ์
(Credit Balance)

บัญชี Credit Balance หรือ บัญชีมาร์จิ้น (Margin) เป็นประเภทบัญชี ที่สามารถให้นักลงทุนใช้เงินทุนของตัวเอง
ส่วนหนึ่งและกู้ยืมเงินจากบริษัทหลักทรัพย์อีกส่วนหนึ่ง เพื่อซื้อหุ้นได้ ก่อนที่นักลงทุนจะทำการซื้อหุ้นได้ จะต้องมีการวางหลักประกันก่อน โดยหลักประกันสามารถเป็นเงินสดหรือหุ้นก็ได้ และหลักทรัพย์ที่อนุญาตให้การซื้อจะเป็นไปตามประกาศหุ้นมาร์จิ้นของบริษัท
อ่านต่อ
DR ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
DR คืออะไร

DR เป็นตราสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายหุ้นหรือ ETF ในต่างประเทศได้

โดยผ่านการซื้อขาย DR ที่จดทะเบียนซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ซึ่งกระบวนการนั้นง่ายกว่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ เพราะมีตัวกลางซึ่งก็คือผู้ออก DR ช่วยบริหารจัดการให้ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการยกหุ้นต่างประเทศมาให้ซื้อขายได้บนตลาดหุ้นไทย ในรูปแบบของการซื้อขาย “ใบรับฝาก” แทน

“ผู้ออก DR” เป็นคนไปซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศมาเก็บไว้ เพื่อใช้ออก DR นำมาเสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป (IPO) ก่อนจะนำมาจดทะเบียนและซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ออก DR ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหลักทรัพย์ในต่างประเทศ แต่จะทำหน้าเป็นผู้ที่ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศแทนนักลงทุน

ดังนั้น นักลงทุนที่ถือครอง DR จึงเปรียบเสมือนกับถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านใบ DR ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เนื่องจากซื้อขายด้วยเงินบาท ใช้บัญชีเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นไทย เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป สิ่งเดียวที่แตกต่างกัน คือ Board Lot ของ DR จะซื้อขายได้สะดวกกว่าหุ้นทั่วไป เพราะ DR นั้นซื้อขายได้ขั้นต่ำครั้งละ 1 DR ขณะที่หุ้นทั่วไปจะซื้อขายกันขั้นต่ำที่ Board Lot ละ 100 หุ้น

การลงทุนใน DR vs การลงทุนโดยตรงต่างประเทศต่างกันอย่างไร?

 

DR

หุ้นต่างประเทศ

วิธีการซื้อขาย

เหมือนการซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET

ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ

เวลาซื้อขาย

ตามเวลา SET (ไม่มีพักกลางวัน)

ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ

สกุลเงิน

เงินบาท

สกุลเงินต่างประเทศ

ค่าธรรมเนียม

อัตราเดียวกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET

ตามที่โบรกเกอร์กำหนด

ข่าวสารข้อมูล

ติดตามจากเว็บไซต์ ก.ล.ต. และเว็บไซต์ผู้ออก DR

ติดตามจากโบรกเกอร์ที่ให้บริการ

ภาษี

เหมือนการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET

ขึ้นอยู่กับกฎหมายของต่างประเทศ

มาทำความรู้จักกับ สัญลักษณ์ย่อของ DR กันดีกว่า ซึ่งจะประกอบด้วยตัวอักษรความยาวสูงสุดไม่เกิน 10 ตัว ดังนี้

ข้อควรรู้ / ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

ลงทุน DR ได้อะไร
ผลตอบแทนและความเสี่ยงของ DR มีอะไรบ้าง? คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า? สามารถพิจารณาได้ดังนี้

ผู้ที่ถือ DR จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเสมือนถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้นๆ โดยตรง โดยแบ่งผลตอบแทนออกเป็น 2 ส่วน

กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain)

กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) ที่นักลงทุนจะได้รับหากสามารถขาย DR ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตอนที่ซื้อมา แต่หากทิศทางราคาไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ และมีโอกาสขาดทุนเช่นกัน

เงินปันผล (Dividend) และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

ผู้ถือ DR มีโอกาสได้รับเงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์ต่างประเทศ เมื่อไหร่ที่หุ้นแม่หรือ ETF ประกาศจ่ายเงินปันผล ก็จะได้รับเงินปันผลเช่นเดียวกัน แต่ก็มีเงื่อนไขเล็กน้อย คือ เงินปันผลที่จะได้รับนั้น จะถูกหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามที่ระบุไว้ในสัญญารับฝาก (ถ้ามี) ดังนั้นจึงต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดเมื่อคิดจะเริ่มลงทุน DR

การลงทุนย่อมต้องมีเรื่อง “ความเสี่ยง” ต้องคอยระวัง และถึงแม้ว่าการลงทุนใน DR นักลงทุนจะทำการซื้อขายโดยใช้เงินสกุลบาท แต่โดยทั่วไปแล้ว ราคา DR ควรจะใกล้เคียงกับราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ปรับค่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจาก 1 DR เทียบเท่ากับหุ้นต่างประเทศ 1 หุ้น หรือ ETF ต่างประเทศ 1 หน่วย นักลงทุนจึงต้องพิจารณาถึง “ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน” ควบคู่ไปกับการติดตามราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพื่อใช้ประกอบในการลงทุน DR

ทั้งนี้ ราคา DR อาจจะแตกต่างจากราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการซื้อและความต้องการขาย (Demand & Supply) ของ DR ในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงสภาวะแวดล้อมภายในประเทศอื่นๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ นักลงทุนควรพิจารณา “ความน่าเชื่อถือ” หรือความสามารถในการให้บริการต่างๆ ของผู้ออก DR ที่ปัจจุบันอนุญาตให้เฉพาะบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออกประกอบกันไปด้วย

การลงทุนใน DR ไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนจากที่ถือหุ้นไทย 100% ด้วยการกระจายสัดส่วนการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น แถมยังสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา DR

1. ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ
มีผลจากสภาพตลาดและเศรษฐกิจของประเทศที่สินทรัพย์อ้างอิงนั้นทำการซื้อขายอยู่อาจส่งผลกระทบให้ราคา DR ปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ หรือราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศมีความผันผวนก็จะส่งผลกระทบให้ราคา DR นั้นๆ ผันผวนตามไปด้วยเช่นกัน

สำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดให้ผู้ออก DR ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีการเปิดเผยในต่างประเทศ และนำข้อมูลข่าวสารดังกล่าวมาเผยแพร่แก่นักลงทุน DR ผ่านช่องทางการเผยแพร่ข่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนใน DR ได้อย่างเหมาะสม และเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญกับหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผู้ออก DR จะขอให้มีการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เช่น XD, H, SP ตามหลักทรัพย์ต่างประเทศในตลาดแม่

2. อัตราแลกเปลี่ยน
แม้ว่าจะสามารถซื้อขาย DR ได้ในตลาดหุ้นไทยด้วยเงินสกุลบาท แต่เวลาที่ซื้อขายนั้นต้องอ้างอิงกับราคาหุ้นหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ อ้างอิงกับเงินสกุลนั้นๆ ที่สินทรัพย์จดทะเบียนอยู่ ดังนั้นเมื่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงก็ย่อมส่งผลกับราคา DR ในไทยให้แพงกว่า หรือ ถูกกว่าในบางช่วง ซึ่งค่าเงินทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางเงินไหลเข้าหรือเงินไหลออกแต่ละประเทศ โดย DR ที่อ้างอิงกับสินทรัพย์ในต่างประเทศก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินด้วยเช่นกัน

3. ความต้องการของนักลงทุน
เหมือนกับหลักทรัพย์ทั่วไปถ้ามีแรงซื้อเข้ามามากในบางช่วงก็อาจทำให้ราคา DR ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติได้ ดังนั้น ในการพิจารณาก่อนเข้าซื้อ นักลงทุนควรดูในเรื่องของราคาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ก่อนที่จะเข้าซื้อทุกครั้ง

3 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุนใน DR

แม้ DR จะมีลักษณะคล้ายหุ้น แต่ก็มีข้อแตกต่างในบางเรื่องที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจเพิ่มเติม เช่น หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาออกเป็น DR ได้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย และการส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น การทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาออกเป็น DR ได้

1. หุ้นหรือหน่วยลงทุน
หุ้นหรือหน่วยลงทุน เช่น ETF, REIT, Infra Fund, Infra Trust ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ ก.ล.ต. ยอมรับ
2. หุ้นที่มีการซื้อขายในประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
โดยหุ้นดังกล่าวต้องมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วันทำการไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

ค่าธรรมเนียม

ในการซื้อขาย DR จะมีตัวกลางที่เรียกว่า “Market Maker” ซึ่งเป็นผู้ที่นำคำสั่งซื้อจากนักลงทุนที่เข้าซื้อ DR ไปดำเนินการซื้อหุ้นในต่างประเทศ ดังนั้น DR จึงมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1. ค่าธรรมเนียมซื้อขายหรือค่าคอมมิชชั่น
เหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป
2. ค่าธรรมเนียมที่ผู้ออกอาจเรียกเก็บ
ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่จ่ายสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือ เก็บตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญารับฝาก DR ดังนั้น จะต้องอ่านและศึกษาข้อมูลอย่างรอบครอบก่อนที่จะซื้อ DR

วิธีการและเงื่อนไขการส่งคำสั่งซื้อขาย DR
  • ส่งคำสั่งซื้อขายเหมือนหุ้น โดยจะได้จับคู่คำสั่งซื้อขายตามหลัก Price Then Time Priority
  • ราคาสูงสุด – ราคาต่ำสุดในแต่ละวัน ไม่เกิน 30 % ของราคาปิดวันทำการก่อนหน้า
  • หน่วยการซื้อขายขั้นต่ำ 1 Board Lot เท่ากับ 1 DR
  • ช่วงราคาซื้อขาย (Tick Size) เหมือนหุ้นสามัญ
วิธีการลงทุนใน DR
รายละเอียดสินค้า DR

โดยอ้างอิงกับสินทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญต่างประเทศ

โดยอ้างอิงกับสินทรัพย์ ประเภทหน่วยของโครงการจัดการลงทุนต่างประเทศ ดังนี้

  • CAM CSI300 ETF
  • CAM HSTECH ETF
  • DCVFMVN30 ETF
  • DCVFMVN DIAMOND ETF
  • SPDR GOLD (HK) ETF
  • SPDR GOLD TRUST(GSD)
  • SPDR GOLD (US) ETF
  • TRAHK ETF
  • HSCEI ETF
  • HSTECH ETF
  • HSHD ETF
  • CAM MSCIINDIA ETF
  • IS INDIA CLIMATE ETF
  • GLOBALX JAPAN(HK)ETF
  • HS JAPAN TPX100 ETF
  • CAM JAPAN HDG ETF
  • CAM NASDAQ 100 ETF
  • NIKKEI ETF
  • S&P CRUDE OIL(HK)ETF
  • INVESCO NDAQ100 ETF
  • SP500HK ETF
  • SP500US ETF
  • PREMIA STAR50 ETF
  • YT TAIWAN50 ETF
  • KGI TAIWAN AI 50 ETF
  • KGI TAIWAN HD 30 ETF
  • GLOBALX INBLU(HK)ETF
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.set.or.th/th/market/product/dr/marketdata
เทคนิคการเลือก / บทวิเคราะห์ DR
เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีความน่าสนใจในการลงทุน

วิเคราะห์หลักทรัพย์อ้างอิงก่อนว่า... มีทิศทางการเติบโตที่ดีหรือไม่ มีโอกาสเติบโตมากน้อยเพียงใด ดูได้จากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศนั้น ภาวะอุตสาหกรรม และแนวโน้มการเติบโตของบริษัท รวมถึงปัจจัยที่จะเข้ามากระทบกับหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ DR นั้นอ้างอิงอยู่ส่วนของการ “วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ” ต้องดูถึงปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศนั้นว่ามีการเติบโตในระดับไหน แข็งแกร่งเพียงพอและน่าสนใจลงทุนหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศข้างเคียงหรือประเทศที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระดับเดียวกัน

“การวิเคราะห์บริษัท” สามารถวิเคราะห์ความแข็งแกร่งด้านพื้นฐาน รวมถึงความสามารถของบริษัทจากผลการดำเนินงานในอดีต เช่น
  • กิจการต้องมีผลประกอบการดี เติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • มีกำไรอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาขาดทุน
  • มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน หนี้สินอยู่ในระดับต่ำ
  • ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม
นอกจากวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตแล้วต้อง “ประเมินและคาดการณ์ศักยภาพในการเติบโต” ของบริษัทนั้นด้วยว่า มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคตหรือไม่
ตรวจสอบเงื่อนไขของสัญญารับฝาก

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน มีเงื่อนไขต่างๆ เช่น

  • สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือ DR จะได้รับ
  • ค่าใช้จ่ายที่ผู้ออก DR เรียกเก็บ
  • การทำหน้าที่ของ MM (ถ้ามี)
  • เงื่อนไขและวิธีการรับซื้อคืน DR
การลงทุนใน DR ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียด และต้องติดตามทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่ DR นั้นลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้ลงทุนใน DR ได้อย่างมั่นใจ หรือคลิกอ่านบทวิเคราะห์ DR (เชิงเทคนิค) ของทาง บล. บียอนด์ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
ไฟล์ดาวน์โหลด
ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีเครดิตบาลานซ์ ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนตุลาคม 2568 มีผล 6 ตุลาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกันยายน 2568 มีผล 11 กันยายน 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกันยายน 2568 มีผล 5 กันยายน 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนสิงหาคม 2568 มีผล 8 สิงหาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนสิงหาคม 2568 มีผล 7 สิงหาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 มีผล 16 กรกฎาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 มีผล 7 กรกฎาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมิถุนายน 2568 มีผล 9 มิถุนายน 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 มีผล 8 พฤษภาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนเมษายน 2568 มีผล 8 เมษายน 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมีนาคม 2568 มีผล 11 มีนาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมีนาคม 2568 มีผล 7 มีนาคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีผล 7 กุมภาพันธ์ 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศหลักทรัพย์ที่ต้องซื้อใน Cash Balance เท่านั้น ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมกราคม 2568 มีผล 8 มกราคม 2568 ครั้งที่ 2 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมกราคม 2568 มีผล 8 มกราคม 2568 ดาวน์โหลด
ประกาศอัตรา Haircut หลักประกันสำหรับพิจารณาวงเงินและคำนวณอำนาจซื้อ ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนธันวาคม 2567 มีผล 18 ธันวาคม 2567 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนธันวาคม 2567 มีผล 9 ธันวาคม 2567 ดาวน์โหลด
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 มีผล 20 พฤศจิกายน 2567 ดาวน์โหลด
Copyright © 2020 Beyond Securities Public Company Limited. All rights reserved. | นโยบายความเป็นส่วนตัวและนโยบายการใช้คุกกี้