
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด(มหาชน) พร้อมให้บริการและให้คำแนะนำแก่นักลงทุนทั้งรายบุคคลและสถาบัน ด้วยประสบการ์และทีมงานมืออาชีพ
DR เป็นตราสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายหุ้นหรือ ETF ในต่างประเทศได้
โดยผ่านการซื้อขาย DR ที่จดทะเบียนซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ซึ่งกระบวนการนั้นง่ายกว่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ เพราะมีตัวกลางซึ่งก็คือผู้ออก DR ช่วยบริหารจัดการให้ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการยกหุ้นต่างประเทศมาให้ซื้อขายได้บนตลาดหุ้นไทย ในรูปแบบของการซื้อขาย “ใบรับฝาก” แทน
“ผู้ออก DR” เป็นคนไปซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศมาเก็บไว้ เพื่อใช้ออก DR นำมาเสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป (IPO) ก่อนจะนำมาจดทะเบียนและซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ออก DR ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหลักทรัพย์ในต่างประเทศ แต่จะทำหน้าเป็นผู้ที่ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศแทนนักลงทุน
ดังนั้น นักลงทุนที่ถือครอง DR จึงเปรียบเสมือนกับถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านใบ DR ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เนื่องจากซื้อขายด้วยเงินบาท ใช้บัญชีเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นไทย เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป สิ่งเดียวที่แตกต่างกัน คือ Board Lot ของ DR จะซื้อขายได้สะดวกกว่าหุ้นทั่วไป เพราะ DR นั้นซื้อขายได้ขั้นต่ำครั้งละ 1 DR ขณะที่หุ้นทั่วไปจะซื้อขายกันขั้นต่ำที่ Board Lot ละ 100 หุ้น
การลงทุนใน DR vs การลงทุนโดยตรงต่างประเทศต่างกันอย่างไร?
|
DR |
หุ้นต่างประเทศ |
วิธีการซื้อขาย |
เหมือนการซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET |
ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ |
เวลาซื้อขาย |
ตามเวลา SET (ไม่มีพักกลางวัน) |
ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ |
สกุลเงิน |
เงินบาท |
สกุลเงินต่างประเทศ |
ค่าธรรมเนียม |
อัตราเดียวกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET |
ตามที่โบรกเกอร์กำหนด |
ข่าวสารข้อมูล |
ติดตามจากเว็บไซต์ ก.ล.ต. และเว็บไซต์ผู้ออก DR |
ติดตามจากโบรกเกอร์ที่ให้บริการ |
ภาษี |
เหมือนการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET |
ขึ้นอยู่กับกฎหมายของต่างประเทศ |
มาทำความรู้จักกับ สัญลักษณ์ย่อของ DR กันดีกว่า ซึ่งจะประกอบด้วยตัวอักษรความยาวสูงสุดไม่เกิน 10 ตัว ดังนี้
ลงทุน DR ได้อะไร
ผลตอบแทนและความเสี่ยงของ DR มีอะไรบ้าง? คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า? สามารถพิจารณาได้ดังนี้
ผู้ที่ถือ DR จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเสมือนถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้นๆ โดยตรง โดยแบ่งผลตอบแทนออกเป็น 2 ส่วน
กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain)
กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) ที่นักลงทุนจะได้รับหากสามารถขาย DR ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตอนที่ซื้อมา แต่หากทิศทางราคาไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ และมีโอกาสขาดทุนเช่นกัน
เงินปันผล (Dividend) และสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ผู้ถือ DR มีโอกาสได้รับเงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์ต่างประเทศ เมื่อไหร่ที่หุ้นแม่หรือ ETF ประกาศจ่ายเงินปันผล ก็จะได้รับเงินปันผลเช่นเดียวกัน แต่ก็มีเงื่อนไขเล็กน้อย คือ เงินปันผลที่จะได้รับนั้น จะถูกหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามที่ระบุไว้ในสัญญารับฝาก (ถ้ามี) ดังนั้นจึงต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดเมื่อคิดจะเริ่มลงทุน DR
การลงทุนย่อมต้องมีเรื่อง “ความเสี่ยง” ต้องคอยระวัง และถึงแม้ว่าการลงทุนใน DR นักลงทุนจะทำการซื้อขายโดยใช้เงินสกุลบาท แต่โดยทั่วไปแล้ว ราคา DR ควรจะใกล้เคียงกับราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ปรับค่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจาก 1 DR เทียบเท่ากับหุ้นต่างประเทศ 1 หุ้น หรือ ETF ต่างประเทศ 1 หน่วย นักลงทุนจึงต้องพิจารณาถึง “ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน” ควบคู่ไปกับการติดตามราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพื่อใช้ประกอบในการลงทุน DR
ทั้งนี้ ราคา DR อาจจะแตกต่างจากราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการซื้อและความต้องการขาย (Demand & Supply) ของ DR ในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงสภาวะแวดล้อมภายในประเทศอื่นๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนควรพิจารณา “ความน่าเชื่อถือ” หรือความสามารถในการให้บริการต่างๆ ของผู้ออก DR ที่ปัจจุบันอนุญาตให้เฉพาะบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออกประกอบกันไปด้วย
การลงทุนใน DR ไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนจากที่ถือหุ้นไทย 100% ด้วยการกระจายสัดส่วนการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น แถมยังสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
1. ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ
มีผลจากสภาพตลาดและเศรษฐกิจของประเทศที่สินทรัพย์อ้างอิงนั้นทำการซื้อขายอยู่อาจส่งผลกระทบให้ราคา DR ปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ หรือราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศมีความผันผวนก็จะส่งผลกระทบให้ราคา DR นั้นๆ ผันผวนตามไปด้วยเช่นกัน
สำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดให้ผู้ออก DR ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีการเปิดเผยในต่างประเทศ และนำข้อมูลข่าวสารดังกล่าวมาเผยแพร่แก่นักลงทุน DR ผ่านช่องทางการเผยแพร่ข่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนใน DR ได้อย่างเหมาะสม และเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญกับหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผู้ออก DR จะขอให้มีการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เช่น XD, H, SP ตามหลักทรัพย์ต่างประเทศในตลาดแม่
2. อัตราแลกเปลี่ยน
แม้ว่าจะสามารถซื้อขาย DR ได้ในตลาดหุ้นไทยด้วยเงินสกุลบาท แต่เวลาที่ซื้อขายนั้นต้องอ้างอิงกับราคาหุ้นหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ อ้างอิงกับเงินสกุลนั้นๆ ที่สินทรัพย์จดทะเบียนอยู่ ดังนั้นเมื่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงก็ย่อมส่งผลกับราคา DR ในไทยให้แพงกว่า หรือ ถูกกว่าในบางช่วง ซึ่งค่าเงินทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางเงินไหลเข้าหรือเงินไหลออกแต่ละประเทศ โดย DR ที่อ้างอิงกับสินทรัพย์ในต่างประเทศก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินด้วยเช่นกัน
3. ความต้องการของนักลงทุน
เหมือนกับหลักทรัพย์ทั่วไปถ้ามีแรงซื้อเข้ามามากในบางช่วงก็อาจทำให้ราคา DR ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติได้ ดังนั้น ในการพิจารณาก่อนเข้าซื้อ นักลงทุนควรดูในเรื่องของราคาว่ามีความผิดปกติหรือไม่ก่อนที่จะเข้าซื้อทุกครั้ง
แม้ DR จะมีลักษณะคล้ายหุ้น แต่ก็มีข้อแตกต่างในบางเรื่องที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจเพิ่มเติม เช่น หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาออกเป็น DR ได้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย และการส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น การทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
1. หุ้นหรือหน่วยลงทุน
หุ้นหรือหน่วยลงทุน เช่น ETF, REIT, Infra Fund, Infra Trust ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ ก.ล.ต. ยอมรับ
2. หุ้นที่มีการซื้อขายในประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
โดยหุ้นดังกล่าวต้องมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วันทำการไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
ในการซื้อขาย DR จะมีตัวกลางที่เรียกว่า “Market Maker” ซึ่งเป็นผู้ที่นำคำสั่งซื้อจากนักลงทุนที่เข้าซื้อ DR ไปดำเนินการซื้อหุ้นในต่างประเทศ ดังนั้น DR จึงมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. ค่าธรรมเนียมซื้อขายหรือค่าคอมมิชชั่น
เหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป
2. ค่าธรรมเนียมที่ผู้ออกอาจเรียกเก็บ
ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่จ่ายสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือ เก็บตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญารับฝาก DR ดังนั้น จะต้องอ่านและศึกษาข้อมูลอย่างรอบครอบก่อนที่จะซื้อ DR
โดยอ้างอิงกับสินทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญต่างประเทศ
โดยอ้างอิงกับสินทรัพย์ ประเภทหน่วยของโครงการจัดการลงทุนต่างประเทศ ดังนี้
วิเคราะห์หลักทรัพย์อ้างอิงก่อนว่า... มีทิศทางการเติบโตที่ดีหรือไม่ มีโอกาสเติบโตมากน้อยเพียงใด ดูได้จากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศนั้น ภาวะอุตสาหกรรม และแนวโน้มการเติบโตของบริษัท รวมถึงปัจจัยที่จะเข้ามากระทบกับหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ DR นั้นอ้างอิงอยู่ส่วนของการ “วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ” ต้องดูถึงปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศนั้นว่ามีการเติบโตในระดับไหน แข็งแกร่งเพียงพอและน่าสนใจลงทุนหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศข้างเคียงหรือประเทศที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระดับเดียวกัน
เงื่อนไขสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน มีเงื่อนไขต่างๆ เช่น
ไฟล์ดาวน์โหลด | |
---|---|
ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีเครดิตบาลานซ์ | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนตุลาคม 2568 มีผล 6 ตุลาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกันยายน 2568 มีผล 11 กันยายน 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกันยายน 2568 มีผล 5 กันยายน 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนสิงหาคม 2568 มีผล 8 สิงหาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนสิงหาคม 2568 มีผล 7 สิงหาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 มีผล 16 กรกฎาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 มีผล 7 กรกฎาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมิถุนายน 2568 มีผล 9 มิถุนายน 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 มีผล 8 พฤษภาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนเมษายน 2568 มีผล 8 เมษายน 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมีนาคม 2568 มีผล 11 มีนาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมีนาคม 2568 มีผล 7 มีนาคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีผล 7 กุมภาพันธ์ 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศหลักทรัพย์ที่ต้องซื้อใน Cash Balance เท่านั้น | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมกราคม 2568 มีผล 8 มกราคม 2568 ครั้งที่ 2 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนมกราคม 2568 มีผล 8 มกราคม 2568 | ดาวน์โหลด |
ประกาศอัตรา Haircut หลักประกันสำหรับพิจารณาวงเงินและคำนวณอำนาจซื้อ | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนธันวาคม 2567 มีผล 18 ธันวาคม 2567 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนธันวาคม 2567 มีผล 9 ธันวาคม 2567 | ดาวน์โหลด |
ประกาศเครดิตบาลานซ์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 มีผล 20 พฤศจิกายน 2567 | ดาวน์โหลด |